"บุญ" คือพลังงานอย่างหนึ่ง ซึ่งละเอียด ประณีตและทรงพลังอย่างยิ่ง
เป็นเครื่องชำระล้างจิตใจให้ใสสะอาด บริสุทธิ์ ผ่องใส ห่างไกลจากกิเลสและเครื่องเศร้าหมองทั้งปวง
น่าเสียดายที่คนทั่วไปมองไม่เห็นบุญ จนบางคนไม่เชื่อว่า "บุญมีจริง" และ "บาปก็มีจริง"
แม้ว่าเราจะยังมองไม่เห็นบุญ แต่เวลาที่เราทำบุญนั้นเราสามารถรับรู้ได้ถึงกระแสบุญ ที่หลั่งไหลมาสู่ตัวเรา เช่น เวลาที่เราทำทาน รักษาศีล หรือเจริญภาวนา "บุญจะหลั่งไหลมาสู่ใจเรา" ทำให้เรารู้สึกสบายใจ จิตใจผ่องใส ซึ่งอาการความรู้สึกเหล่านี้ คืออาการของบุญ
บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ คือทางมาแห่งบุญ ๑๐ ประการ
- ทานมัย คือบุญที่เกิดจากการทำทาน
- ศีลมัย คือบุญที่เกิดจากการรักษาศีล
- ภาวนามัย คือบุญที่เกิดจากการเจริญสมาธิภาวนา
- อปจายนมัย คือบุญที่เกิดจากการอ่อนน้อมถ่อมตน
- เวยยาวัจจมัย คือบุญที่เกิดจากการช่วยเหลือการงานที่ถูกที่ควร
- ปัตติทานมัย คือบุญที่เกิดจากอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้อื่น
- ปัตตานุโมทนามัย คือบุญที่เกิดจากการอนุโมทนา
- ธัมมัสสวนมัย คือบุญที่เกิดจากการฟังธรรม
- ธัมมเทสนามัย คือบุญที่เกิดจากการแสดงธรรม
- ทิฏฐชุกัมม์ คือบุญที่เกิดจากการทำความเห็นให้ตรงตามความเป็นจริง
มีบุญ...สำเร็จทุกอย่าง
"บุญ" มีอาณุภาพมากสามารถดึงดูดสมบัติทั้ง ๓ คือ "รูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ" ให้เกิดกับเราได้ เพราะอานุภาพแห่งบุญนั้นยิ่งใหญ่สุดประมาณ
ช่วงไหนเรามีบุญมาก และบุญกำลังส่งผล สมบัติต่างๆก็จะไหลมาเทมาหาเรา
เมื่อไหร่ที่เรามีบุญน้อย หรือหมดบุญ สมบัติที่มีอยู่ก็จะค่อยๆลดน้อยลงไปนั่นเอง
บุญ...เปรียบเสมือนน้ำในคลอง
บาป...เปรียบเสมือนตอที่อยู่ใต้น้ำ
ชีวิต เปรียบเสมือนเรือที่แล่นไปในน้ำ ถ้ามีบุญมากเหมือนน้ำในคลองมาก บาปที่เปรียบเสมือนตออยู่ใต้น้ำก็ทำอะไรเราไม่ได้ เรือก็แล่นไปได้อย่างสะดวกเหมือนชีวิตที่ราบรื่นก้าวหน้า
ถ้าบุญน้อยก็เหมือนน้ำน้อย ตอก็ผุด เรือก็ติดตอ จะประกอบการงานใดก็ติดขัดไปหมดนั่นเอง
บุญ ๓ ประการที่จะนำพาไปสู่การสร้างบารมีที่ยิ่งใหญ่นั้นก็คือ...
- การทำทาน
- รักษาศีล
- การเจริญภาวนา
ซึ่งจะขอกล่าวต่อไปทีละหัวข้อโดยละเอียด เริ่มจาก "การทำทาน" ในบทถัดไปนะคะ ^^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น